แก้อาการนอนไม่หลับตื่นกลางดึกสำหรับคนมีอายุสามารถทำอย่างไรได้บ้าง


แก้อาการนอนไม่หลับตื่นกลางดึก

การนอนไม่หลับเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ สาเหตุอาจเกิดจากหลายปัจจัย เช่น ความเครียด โรคประจำตัว การใช้ยาบางชนิด การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน และความเสื่อมของร่างกายตามวัย อาการนอนไม่หลับอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพกายและใจในหลายด้าน เช่น อ่อนเพลีย หงุดหงิด อารมณ์แปรปรวน สมาธิสั้น ทำงานได้ไม่เต็มที่ เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคต่างๆ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน โรคอ้วน เป็นต้น 

สำหรับผู้สูงอายุที่มีอาการนอนไม่หลับตื่นกลางดึก สามารถแก้ไขได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนหลับ ดังนี้

1. เข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลาเดียวกันทุกวัน

ร่างกายจะทำงานตามจังหวะการตื่นนอนและนอนหลับตามธรรมชาติที่เรียกว่านาฬิกาชีวิต (Circadian Rhythm) หากเข้านอนและตื่นนอนให้เป็นเวลาเดียวกันทุกวัน ร่างกายจะจดจำจังหวะการนอนหลับได้ และช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น

2. หลีกเลี่ยงการนอนกลางวัน

การนอนกลางวันมากเกินไปอาจทำให้นอนหลับในตอนกลางคืนได้ยากขึ้น หากจำเป็นต้องนอนกลางวัน ให้นอนไม่เกิน 30 นาที และควรนอนหลังอาหารกลางวันประมาณ 2-3 ชั่วโมง

3. ปรับสภาพแวดล้อมในห้องนอนให้เหมาะสม

ห้องนอนควรมืด เงียบ และเย็นสบาย อุณหภูมิห้องที่เหมาะสมสำหรับการนอนหลับคือประมาณ 20-22 องศาเซลเซียส แสงสว่างจากหลอดไฟหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อาจรบกวนการนอนหลับได้ ควรปิดไฟและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทั้งหมดก่อนเข้านอน

4. หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนและแอลกอฮอล์ก่อนนอน

คาเฟอีนและแอลกอฮอล์เป็นสารกระตุ้นที่อาจทำให้นอนหลับยากขึ้น คาเฟอีนมีอยู่ในกาแฟ ชา เครื่องดื่มชูกำลัง และอาหารบางชนิด แอลกอฮอล์อาจช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้นในระยะสั้น แต่อาจทำให้นอนหลับไม่สนิทและตื่นมากลางดึกได้

5. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอช่วยให้นอนหลับได้ดีขึ้น แต่ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักๆ ก่อนนอนอย่างน้อย 3-4 ชั่วโมง

6. ผ่อนคลายก่อนนอน

การผ่อนคลายก่อนนอนจะช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น อาจใช้วิธีต่างๆ เช่น การฟังเพลงเบาๆ การอาบน้ำอุ่น การอ่านหนังสือก่อนนอน การนั่งสมาธิ หรือการฝึกสติ

7. ปรึกษาแพทย์หากอาการนอนไม่หลับไม่ดีขึ้น

หากอาการนอนไม่หลับเกิดขึ้นนานกว่า 2 สัปดาห์หรือมีอาการอื่นร่วมด้วย เช่น ปวดหัว เวียนศีรษะ อ่อนเพลียเรื้อรัง ควรไปพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม

นอกจากเทคนิคการแก้ไขข้างต้นแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่ออาการนอนไม่หลับ เช่น สภาพแวดล้อมในการทำงานหรือการเรียน ความเครียด โรคประจำตัว การใช้ยาบางชนิด เป็นต้น หากมีอาการนอนไม่หลับ ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการนอนหลับควบคู่ไปกับการจัดการกับปัจจัยอื่นๆ ที่อาจส่งผลต่ออาการนอนไม่หลับด้วย เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ

เทคนิคเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุ: แก้อาการนอนไม่หลับตื่นกลางดึกอย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากเทคนิคทั่วไปข้างต้นแล้ว ยังมีเทคนิคเฉพาะสำหรับผู้สูงอายุที่สามารถช่วยแก้อาการนอนไม่หลับตื่นกลางดึกได้ ดังนี้

  • รับประทานอาหารเย็นที่เบาและย่อยง่าย

อาหารหนักหรืออาหารรสจัดอาจทำให้อึดอัดและนอนหลับไม่สบาย ควรรับประทานอาหารเย็นที่เบาและย่อยง่าย เช่น ข้าวสวย ผัก ผลไม้ และปลา

  • หลีกเลี่ยงการดื่มน้ำก่อนนอน

การดื่มน้ำก่อนนอนอาจทำให้ต้องตื่นกลางดึกเพื่อเข้าห้องน้ำ ควรดื่มน้ำให้เพียงพอในแต่ละวัน แต่ควรหลีกเลี่ยงการดื่มน้ำก่อนนอนอย่างน้อย 2 ชั่วโมงเพื่อแก้อาการนอนไม่หลับตื่นกลางดึก 

  • ใช้ยานอนหลับอย่างระมัดระวัง

ยานอนหลับอาจช่วยแก้อาการนอนไม่หลับได้ แต่ควรใช้อย่างระมัดระวัง เนื่องจากการใช้ยานอนหลับเพื่อแก้อาการนอนไม่หลับตื่นกลางดึกอาจทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น ง่วงนอนตอนกลางวัน ปวดศีรษะ มึนงง และท้องผูก หากจำเป็นต้องใช้ยานอนหลับ ควรปรึกษาแพทย์ก่อนใช้

  • ได้รับการรักษาโรคประจำตัว

หากมีโรคประจำตัว เช่น โรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวาน หรือโรคซึมเศร้า อาจส่งผลต่ออาการนอนไม่หลับได้ ควรได้รับการรักษาโรคประจำตัวอย่างเหมาะสม

หากผู้สูงอายุปฏิบัติตามเทคนิคข้างต้นแล้ว อาการนอนไม่หลับตื่นกลางดึกอาจดีขึ้น อย่างไรก็ตาม หากอาการไม่ดีขึ้นหรือมีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรับการรักษาที่เหมาะสม